อาถรรพ์ เงินปากผี

อาถรรพ์ เงินปากผี

อาถรรพ์ เงินปากผี

ในสมัยก่อน หากใครนำเหรียญเงินที่มีลักษณะดำคล้ำคล้ายกับถูกไฟเผาจนเกรียมไปซื้อของ ร้านขายของจะไม่รับเพราะกลัวว่าเป็น เงินปากผี เหตุผลที่ไม่รับนั้น เพราะเงินปากผีเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่คนธรรมดาทั่วไปไม่ควรมีไว้ในการครอบครองอย่างเด็ดขาด ส่วนเรื่องราวของเงินปากผีจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง ไปดูบทความกันเลย…

เงินปากผีคือ…?

เงินปากผี ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของ “วัตถุอาถรรพ์” ที่ผู้นิยมไสยศาสตร์ทั้งในอดีตและปัจจุบันพยายามตามหามาครอบครองเป็นเจ้าของ อย่างไรก็ตามคนที่จะสามารถเป็นเจ้าของเงินปากผีได้นั้น จำเป็นที่จะต้องมีวิชาที่แกร่งกล้าและสามารถป้องกันตัวเองจากพลังลี้ลับที่มองไม่เห็นที่อาจพยายามมาทวงคืนเงินปากผีที่เป็นทรัพย์สมบัติของตน ในสมัยก่อนบางชุมชมเงินปากผีเสมือนกับเป็นมรดกตกทอดที่ผู้เสียชีวิตมอบให้กับญาติพี่น้องลูกหลานได้เก็บเอาไว้เพื่อเป็นเครื่องราวของขลัง ที่ช่วยปกป้องคุ้มกันภัยอีกด้วย

เงินปากผีที่มีความขลังมากที่สุด คือ เงินปากผีของศพที่เสียชีวิตวันเสาร์และเผาวันอังคาร เพราะสามารถนำมาใช้ประกอบพิธีกรรมได้อย่างหลากหลาย และมีฤทธิ์ในการซื้อวิญญาณคนเป็นได้ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ผู้คนหลงใหลด้วยการพกติดตัว

เงินปากผี กับความเชื่อของคนไทย

คนในสมัยก่อนเชื่อว่า เมื่อญาติพี่น้องเสียชีวิตลง ต้องทำการจัดพิธีศพให้ถูกต้องตามหลักศาสนา โดยจะนำเงินพดด้วง เหรียญสลึงจำนวนสองสลึงหรือเงินเหรียญหนึ่งบาท (*ในสมัยก่อนเหรียญ 1 บาท มีขนาดที่ใหญ่มากกว่าปัจจุบันมาก) นำมาห่อไว้ในผ้าขาวให้โตพอที่จะไม่หลุดลงไปในลำคอและผูกเชือกไว้ที่หางของผ้าแล้วหย่อนลงไปในปากของผู้ตาย โดยให้หางเชือกโผล่พ้นปากออกมาเพื่อให้สามารถหาได้ง่ายหลังจากที่ทำการเผาศพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในปัจจุบันครอบครัวที่มีฐานะก็อาจใช้ของมีค่าอย่างเช่น ทองคำ ใส่ไปในปากศพด้วย ซึ่งขั้นตอนการนำเงินใส่ในปากผีนั้นจะทำก่อนการบรรจุศพลงไปในโลงศพต่อไป

 

ความเชื่อเรื่อง เงินปากผี มีคำอธิบาย ไว้หลายเหตุผล ดังนี้

ประการแรก เพื่อผู้ตายจะได้เอา ทรัพย์ติดตัว ไปใช้สอย ในเมืองผี เป็นค่าจ้างสำหรับผู้นำดวงวิญญาณของคนตายไปสู่โลกของวิญญาณ ถ้าตามความเชื่อของคนจีน จะมีการเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ผู้ตายคราวละมากๆ

ประการที่สอง เพื่อให้พิจารณาเห็นว่า บรรดา ทรัพย์สมบัติที่สะสมไว้ แม้มากสักเท่าใด ตายแล้วก็นำติดตัวไปไม่ได้ เขาย่อมควักเอาออกจากปาก สุดท้ายจะเอาไปได้ก็แต่กรรมที่ทำไว้

ประการที่สาม เพื่อให้เป็นค่าจ้างแก่สัปเหร่อที่จะนำศพไปเผา ที่ต้องนำไปใส่ไว้ ในปากเพราะว่าจะได้ค้นหาได้สะดวก เพราะถ้าเจ้าภาพบิดพลิ้วสัญญาค่าจ้างภายหลัง เงินใส่ปากศพจะกลายเป็นเงินค่าจ้าง เพราะในสมัยก่อนเงินบาทมีค่ามาก

 

ในปัจจุบันแม้ว่าความเชื่อเรื่องการทำพิธีศพ โดยใส่เงินปากผีจะยังคงได้รับความนิยมอยู่ แต่เรื่องราวของความเชื่อดูเหมือนว่าจะค่อยๆเลือนหายไปจากความทรงจำของคนรุ่นใหม่ เพราะไม่ได้รับการบอกเล่าข้อเท็จจริงอย่างเหมาะสม จนกระทั่งเงินปากผีกลายมาเป็นเพียงหนึ่งในขั้นตอนของพิธีศพที่ทำกันตามประเพณีเท่านั้น